ผนมชพค (ผู้นำไม่ชอบพวกคุณ): เรื่องคุณสมบัติไม่ใช่ประเด็น?

Richard Grenell, the American ambassador to Germany, is the president’s pick to be acting director of national intelligence.Credit...Visar Kryeziu/Associated Press ที่มา: https://www.nytimes.com/2020/02/19/us/politics/dni-national-intelligence-director-grenell.html

หน้าที่ของพวกเขาคือ การนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ ปราศจากอคติและจำเป็น เพื่อช่วยแจ้ง (inform) และกำหนดรูปแบบการตัดสินใจที่สอดคล้องกับนโยบายที่เหมาะสม

ระธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯประกาศแต่งตั้งเอกอัครราชทูตริชาร์ด เกรเนลล์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ (Director of National Intelligence - DNI) เมื่อปลายกุมภาพันธ์ 2020 เพื่อกำกับดูแลหน่วยงานข่าวกรองทั้งหมดของสหรัฐฯ (17 หน่วยงาน) เอกอัครราชทูตเกรเนลล์ไม่มีประสบการณ์ด้านการข่าวกรองหรือความมั่นคงแห่งชาติมาก่อนและถูกมองว่าเป็นพวกประจบสอพลอรัฐบาล ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์แสดงออกอย่างเปิดเผยว่า ไม่ใส่ใจรายงานวิเคราะห์ข่าวกรองที่ปราศจากอคติ อีกทั้งยังเห็นว่าเป็นภัยคุกคามต่อวาระเพื่อพรรคพวกของตน ขณะเดียวกันรัสเซียยังคงแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐฯที่กำลังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งแสวงประโยชน์จากความแตกแยกและสร้างความตึงเครียดในหมู่ประชาชนชาวอเมริกัน[1]
การเมืองสหรัฐฯได้มาถึงจุดที่หาทางออกไม่ได้ โดยประธานาธิบดีทรัมป์และเจ้าหน้าที่ระดับสูงทำให้รัฐบาลที่เขาเป็นผู้นำตกต่ำต่อหน้าสาธารณะอยู่เสมอ ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวหาอย่างผิด ๆ ซ้ำ ๆ ถึงการสมคบคิดของสิ่งที่เรียกว่ารัฐพันลึก (deep state) ซึ่งส่งผลที่ตามมาในโลกแห่งความเป็นจริง ชาวอเมริกันกำลังเฝ้ามองผู้นำที่เขาเลือกเข้ามากล่าวร้ายป้ายสีข้าราชการพลเรือนและคาดเดาเป็นครั้งที่สองถึงรัฐบาลแห่งชาติที่ไม่แบ่งแยก เมื่อใกล้เข้าสู่การเลือกตั้งปี 2020 ชาวอเมริกันแบ่งแยกเป็นฝักฝ่ายมากกว่าครั้งใด ๆ และเป็นอีกครั้งที่รัสเซียรณรงค์ใช้ข้อมูลบิดเบือน (disinformation) เพื่อตอกลิ่มความแตกแยกที่เกิดขึ้น[2]
ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศเมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2020 ว่าเอกอัครราชทูตริชาร์ด เกรเนลล์ (ปัจจุบันประจำการที่เยอรมนี) จะปฏิบัติหน้าที่รักษาการผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ การตัดสินใจแต่งตั้งรักษาการผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติคนใหม่แทนพลเรือเอกโจเซฟ แมคไกวร์ รักษาการผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติคนปัจจุบันด้วยบุคคลที่มีประสบการณ์เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับงานข่าวกรองสร้างความผิดหวังงุนงงและสับสนอย่างมากแก่ประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯ โดยแสดงให้เห็นว่าประธานาธิบดีทรัมป์แทบจะไม่เก็บงำความรู้สึกดูถูกและรังเกียจข้อมูลข่าวกรองที่ขัดแย้งกับความรู้สึกสังหรณ์ใจ (gut feelings) ของตนและความโน้มเอียงส่วนบุคคลแต่อย่างใด
เอกอัครราชทูตริชาร์ด เกรเนลล์กล่าวว่าตนจะทำหน้าที่รักษาการจนกว่าประธานาธิบดีทรัมป์เสนอชื่อตนต่อวุฒิสภาอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะต้องใช้ช่วงเวลาระยะหนึ่ง การที่ประธานาธิบดีทรัมป์ทำให้การ “รักษาการ” มีสถานะกึ่งถาวรในคณะรัฐมนตรีก็เพื่อหลีกเลี่ยงการพิจารณารับรองของวุฒิสภา โดยกล่าวว่าตนชอบให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ครบวาระการดำรงตำแหน่งทำหน้าที่รักษาการเพื่อความยืดหยุ่น ส่งผลให้ตำแหน่งระดับสูงอื่นทั้งหมดก็ยังไม่ได้รับการแต่งตั้ง การแต่งตั้งเอกอัครราชทูตริชาร์ด เกรเนลล์ในฐานะผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติดำเนินไปโดยเจตนารมณ์ของกฎหมายและใช้ภาษาที่บาดหมางทำให้เกิดส่วนแยก (สาขา) ในคณะรัฐมนตรี
พระราชบัญญัติปฏิรูปการข่าวกรองและป้องกันการก่อการร้ายปี 2004 ของสหรัฐฯกำหนดคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติในประมวลกฎหมาย 50 U.S. Code §3023[3] ระบุว่า บุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ จะต้องเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านความมั่นคงแห่งชาติอย่างกว้างขวางด้วยเหตุนี้ การแต่งตั้งใด ๆ นอกเหนือจากข้อกำหนดดังกล่าวจะถูกมองว่าเป็นการดูหมิ่นหน่วยงานและบุคลากรด้านการข่าวกรอง ซึ่งได้รับอาณัติจากประชาชนให้สถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและสังคม (speak truth to power)
การแต่งตั้งเอกอัครราชทูตเกรเนลล์และการโยกย้ายแอนดรู ฮอลล์แมน เจ้าหน้าที่อาวุโสลำดับที่สองของสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ (ODNI) ท่ามกลางความสับสนอลหม่านของการต่อต้านความท้าทายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ[4] โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัสเซียสร้างอิทธิพลอย่างเป็นระบบขนาดใหญ่อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ด้วยการแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯในปี 2016 ซึ่งประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯมีข้อสรุปอย่างเป็นเอกฉันท์บนพื้นฐานของข้อมูลที่ท่วมท้นและไม่คลุมเครือว่า รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งและพึงพอใจผู้สมัครรับเลือกตั้งชื่อทรัมป์
ปรากฏรายงานว่า แค่เพียงกล่าวถึงอิทธิพลของรัสเซียต่อการรณรงค์เลือกตั้งสหรัฐฯก็ทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ การเปลี่ยนตัวรักษาการผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ (พลเรือเอกโจเซฟ แมคไกวร์) เกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงบรรยายสรุปสถานการณ์ข่าวกรองต่อคณะกรรมาธิการในรัฐสภา ไม่เพียงกล่าวถึงความพยายามของรัสเซียที่จะมีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งในปี 2020 แต่ยังระบุว่าทรัมป์เป็นผู้สมัครที่รัสเซียพึงพอใจ
หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ข่าวกรองมืออาชีพเข้าใจว่า เมื่อได้รับรายงานข่าวกรอง ประธานาธิบดีสหรัฐฯอาจใช้ดุลพินิจในการปฏิบัติหน้าที่ (หรือไม่ปฏิบัติก็ได้) เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองไม่ควรมีส่วนร่วม (involved) ในการกำหนดนโยบาย หน้าที่ของพวกเขาคือ การนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ ปราศจากอคติและจำเป็นพื่อช่วยแจ้ง (inform) และกำหนดรูปแบบการตัดสินใจที่สอดคล้องกับนโยบายที่เหมาะสม
สภาพแวดล้อมทางการเมืองในปัจจุบันแสดงให้เห็นบางสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิม โดยประธานาธิบดีทรัมป์ไม่เพียงปฏิเสธที่จะได้ยิน "ข่าวร้าย" ที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย ยังถามถึงความภักดีของผู้รายงานข่าวกรอง ก่อนเข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ตำหนิประชาคมข่าวกรองอย่างต่อเนื่องและซ้ำซาก ป้ายสีผู้นำ CIA และ FBI ว่าไม่ซื่อสัตย์และมีเงื่อนงำโดยไปไกลจนถึงขั้นใช้คำว่า "กบฏ" ในทวีตของตน การตัดสินใจแต่งตั้งเอกอัครราชทูตเกรเนลล์ เรื่องการขาดคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งไมใช่ประเด็น แต่เป็นการส่งข้อความที่ชัดแจ้งไปยังประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯ (ที่เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง) ซึ่งได้รับอาณัติจากประชาชนให้สถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและสังคมว่า (พวกเขา) ไม่เป็นที่ยินดีต้อนรับสำหรับรัฐบาลนี้อีกต่อไป



[1] TARGETING THE U.S. INTELLIGENCE COMMUNITY INTELBRIEF Tuesday, February 25, 2020 Available at https://mailchi.mp/thesoufancenter/targeting-the-us-intelligence-community?e=c4a0dc064a
[2] ข่าวกรองแฉแผน “รัสเซีย” แทรกแซงเลือกตั้งสหรัฐ หวังช่วย “ทรัมป์” นั่งเก้าอี้ต่อ มติชน 21 กุมภาพันธ์ 2563 https://www.matichon.co.th/foreign/news_1993015
[3] 50 U.S. Code § 3023. Director of National Intelligence Cornell Law School Available at https://www.law.cornell.edu/uscode/text/50/3023
[4]  Ousted acting spy chief Maguire formally resigns from US government By Zachary Cohen, CNN Updated 2141 GMT (0541 HKT) February 212020 https://edition.cnn.com/2020/02/21/politics/joseph-maguire-director-of-national-intelligence/index.html

Author Image

About Kim
Kim is a retired civil servant, specializing in intelligence analysis. He loves productivity hacks, minimalist workflows and CSI series.

No comments

Powered by Blogger.