ทฤษฎีสมคบคิด (conspiracy theory): นัยของความมั่นคงแห่งชาติ

Coronavirus: How do I recognize a conspiracy theory? ที่มาภาพ: https://www.dw.com/en/coronavirus-how-do-i-recognize-a-conspiracy-theory/a-53492563

ฤษฎีสมคบคิด (conspiracy theory) อาจส่งผลให้เกิดการรวมกันของกลุ่มคนขาวผู้สูงส่ง (white supremacists) รวมทั้งกลุ่ม QAnon[1] และกลุ่มต่อต้านรัฐบาลที่เห็นว่าไวรัส COVID-19 เป็นโอกาสเดียวที่จะต่อต้านบรรทัดฐานทางสังคมอย่างเฉียบพลัน สำหรับทฤษฎีสมคบคิดกลุ่มต่อต้านยิว (anti-Semitic conspiracy theories) ปรากฏตัวบนแพลตฟอร์มสื่อสังคมหลัก (mainstream social media) และซอกหลืบของอินเทอร์เน็ต ส่วนทฤษฎีสมคบคิดกลุ่ม 5G และการต่อต้านวัคซีนถูกใช้กระตุ้นให้เกิดความรุนแรงในช่วงการระบาดของไวรัสโคโรนา ทั้งนี้ การแพร่ขยายและการทำให้ทฤษฎีสมคบคิดเข้าสู่ภาวะเป็นปกติ (normalization) เนื่องจากความเชื่อมั่นต่อสื่อกระแสหลักลดน้อยลงหรือการผสานความเป็นพิษ ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ[2]
          นับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของวิกฤติไวรัส COVID-19 รัฐและตัวแสดงที่ไม่ใช่รัฐ (non-state actors) ได้ผลักดันทฤษฎีสมคบคิดอย่างหลากหลาย โดยสร้างเรื่องเท็จเพื่อประณามศัตรูเก่า คุกคามผู้ที่ตน (คิดว่า) เป็นศัตรูใหม่และกล่าวโทษรัฐบาล มีประเด็นทับซ้อนทางความคิดระหว่างกลุ่มคนขาวผู้สูงส่งและกลุ่มต่อต้านรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเล่าผิด ๆ เกี่ยวกับ COVID-19 ทำให้กลุ่มดังกล่าวบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ
ชุมชนคนขาวผู้สูงส่งเห็นว่า COVID-19 เป็นตัวเร่งให้เกิดการสร้่างเชื้อชาติสหรัฐฯที่บริสุทธิ์ กลุ่ม QAnon ซึ่งเป็นการรวมตัวแบบหลวม ๆ ของความเชื่อเกี่ยวกับวันสิ้นโลกและการจุติใหม่ของพระเยซูเห็นว่า COVID-19 จะทำให้เกิดการตื่นรู้ครั้งใหญ่ (Great Awakening) ส่วนกลุ่มต่อต้านรัฐบาลมองว่า COVID-19 เป็นทฤษฎีสมคบคิดที่จะถอดถอนเสรีภาพของพลเรือนและเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐพันลึก (deep state) ที่จะขับไล่ประธานาธิบดีทรัมป์ออกจากตำแหน่ง สำหรับกลุ่มที่มีลักษณะคล้ายทหารและมีแนวคิด “สงครามกลางเมือง” เช่น ขบวนการBoogaloo เห็นว่า COVID-19 ทำให้มั่นใจว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะไม่ถูกช่วงชิงไป
ไม่ว่าจะซ่อนตัวในมุมมืดของอินเทอร์เน็ตในกลุ่มย่อยของ Reddit หรือมีส่วนร่วมอย่างเปิดเผยบนแพลตฟอร์มหลักเช่น Facebook และ YouTube กลุ่มคนขาวผู้สูงส่งก็พยายามเชื่อมโยงการแพร่ระบาดของไวรัสไปยังชาวยิว หนึ่งในทฤษฎีต่อต้านยิวของกลุ่มคนขาวผู้สูงส่งมุ่งเป้าที่จุดประสงค์ทางการเมืองของผู้นำชาวยิว เช่น ตระะกูล Rothschild และ George Soros โดยกล่าวหาว่าคนเชื้อสายยิวดังกล่าวใช้ไวรัสเป็นอาวุธในการแทนที่คนผิวขาว ทฤษฎีสมคบคิดมักปฏิสัมพันธ์กับทฤษฎีการแทนที่ครั้งใหญ่ (Great Replacement Theory) ในปี 2010 ของ Renaud Camus ที่ระบุว่า ชนชั้นนำทั่วโลกพยายามฆ่าล้างเผ่าพันธ์คนผิวขาว
สื่อสังคมของกลุ่ม QAnon แสดงความเห็นเช่นเดียวกับกลุ่มคนขาวผู้สูงส่งว่า ไวรัส COVID-19 คือ เครื่องมือควบคุมประชากรที่สร้างขึ้นโดยพวกยิวได้แก่ กลุ่มยิวผู้ยึดครองรัฐบาล (Zionist Occupied Government - ZOG) และพวกผู้นำรัฐพันลึกระดับโลก เพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าในการผลักดันทฤษฎีสมคบคิดบนแพลตฟอร์มสื่อสังคมหลักเช่น เรื่องเล่าของ Khazar ซึ่งปฏิเสธบรรพบุรุษของชาวยิวทั้ง Ashkenazi[3] หรือ Sephardic[4] เพื่อสร้างความชอบธรรมในการใช้วาจาสร้างความเกลียดชัง (hate speech)
การขยายขอบเขตของแผนการสมคบคิดเจือด้วยความเกลียดชัง จึงไม่น่าแปลกใจที่สมาคมต่อต้านการหมิ่นประมาท (Anti-Defamation League) รายงานว่า ช่วงปีที่ผ่านมาการต่อต้านชาวยิวได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน New York และ New Jersey ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในสหรัฐฯ
กลุ่มต่อต้านรัฐบาลมักอ้างตัวเป็นทหารอาสารักษาเสรีภาพ เช่น สิทธิความเป็นส่วนตัว (privacy rights) และการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่สอง (2nd Amendment) ได้ควบคุมและใช้ประโยชน์จากความนิยมของความเชื่อแบบสมคบคิดด้วย กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเช่น Oath Keepers ได้ปักตรึง COVID-19 ในการกล่าวหา Bill Gates ผู้ก่อตั้ง Microsoft ด้วยการสมคบคิดแบบง่าย ๆ ว่า เมื่อห้าปีก่อน Bill Gates ได้พูดเกี่ยวกับความจำเป็นในการพัฒนาวัคซีน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในอนาคต
ปัจจุบันกลุ่มต่อต้านรัฐบาลชี้ให้เห็นข้อสังเกตของ Bill Gates เกี่ยวกับวัคซีนและความคิดริเริ่ม ID2020 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการใช้วัคซีน COVID-19 และฝังไมโครชิปเพื่อติดตามและควบคุมประชาชน เช่นเดียวกับกลุ่มคนขาวผู้สูงส่งเห็นว่า Bill Gates คือ ชนชั้นนำที่สร้าง COVID-19 เพื่อการปกครองแบบเผด็จการ “ระเบียบโลกใหม่” ที่จะเป็นอันตรายต่อเชาติพันธุ์ผิวขาว
ในช่วงการระบาด COVID-19 กลุ่มคนขาวผู้สูงส่งและกลุ่มต่อต้านรัฐบาลแสดงความกังวลและสงสัยเกี่ยวกับการก่อสร้างเสาสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ หรือ 5นักทฤษฎีสมคบคิดเหล่านี้เชื่อว่า COVID-19 ถูกออกแบบโดยเจตนาทำให้คนเจ็บป่วย เมื่อพวกเขาได้รับการฉีดวัคซีนและไมโครชิป ทั้งนี้ เสาส่งสัญญาณ 5สามารถช่วยติดตามพวกเขาได้ นักทฤษฎีสมคบคิดจำนวนหนึ่งเชื่อว่าเสาส่งสัญญาณ 5เป็นส่วนหนึ่งของโครงการอาวุธลับเพื่อลดจำนวนคนชาติพันธุ์ผิวขาวหรือทำให้รัฐบาลบังคับใช้กฎอัยการศึกได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น[5]
ทฤษฎีสมคบคิดเหล่านี้ เมื่อพิจารณาผ่านเลนส์ของกลุ่มคนขาวผู้สูงส่งจะเห็นการเร่งตัวของทฤษฎีการแทนที่คนผิวขาว การตื่นรู้ครั้งใหญ่ของกลุ่ม QAnon และการก่อตัวของเครือข่าย Boogaloo ในกลุ่มต่อต้านรัฐบาล ซึ่งหมายถึงความรุนแรงในอนาคต การที่คนจำนวนมากกักตัวอยู่บ้านและใช้เวลาส่วนใหญ่ออนไลน์จึงมีโอกาสมากขึ้นที่พวกเขาจะอ่านข้อความ (tweet) จากนักปลุกปั่น (demagogue) ที่ไม่น่าไว้วางใจหรือโต้ตอบข่าวสารจากเพื่อน บน Facebook ที่ไม่ได้มีความรู้มากนักในหัวข้อเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
พัฒนาการดังกล่าวเกิดขึ้นพร้อมกับการดูถูกความน่าเชื่อถือของสื่อสารมวลชน อาจเป็นการสะท้อนทฤษฎีสมคบคิดในสังคมอเมริกันที่ยาวนานกว่า COVID-19 ในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอน หวาดกลัวและสงสัย การแพร่ขยายของการสมคิดเป็นภัยคุกคามความมั่นคงแห่งชาติที่เฉียบแหลม ซึ่งจะพอกพูนด้วยผู้ติดตามใหม่จำนวนมาก ผู้ที่จะติดตามจำเป็นต้องมีคำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับคำตอบที่ทฤษฎีสมคบคิดพยายามนำเสนอ ไม่ว่าตรรกะนั้นผิดพลาดเพียงใด การโอบรับความเชื่อใหม่ ซึ่งมีรากฐานจากการสมคบคิดจะผลักดันให้ผู้คนจำนวนมากเข้าสู่ความรุนแรง



[1] ทฤษฎีสมคบคิดของกลุ่มสนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯรู้จักกันในชื่อ “QAnon” เกิดขึ้นบนอินเทอร์เน็ตช่วงปี 2017 และเคลื่อไหวแบบออฟไลน์ในการชุมนุมหยั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ ทฤษฎีระบุว่ากลุ่มชนชั้นนำรวมถึงคนดังพรรคผู้นำพรรคประชาธิปไตยและรัฐพันลึก (deep state) เป็นแหล่งรวมความชั่วร้ายและประธานาธิบดีทรัมป์จะพิชิตพวกเขาทั้งหมด
[2] THE NATIONAL SECURITY IMPLICATIONS OF CONSPIRACY THEORIES INTELBRIEF Tuesday, May 19, 2020 Available at: https://mailchi.mp/thesoufancenter/the-national-security-implications-of-conspiracy-theories?e=c4a0dc064a
[3] ชาวยิวอัชเคนาซิ หรือ ชาวยิวแห่งอัชเคนาซ (อังกฤษ: Ashkenazi Jews) คือ ชาวยิวที่สืบเชื้อสายมาจากชาวยิวที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในลุ่มแม่น้ำไรน์แลนด์ทางตะวันตกของเยอรมนีและตอนเหนือของฝรั่งเศสในยุคกลาง คำว่า “Ashkenaz" เป็นชื่อภาษาฮิบรูสมัยกลางของภูมิภาคที่ในปัจจุบันครอบคลุมประเทศเยอรมนีและบริเวณที่มีชายแดนติดต่อที่พูดภาษาเยอรมัน นอกจากนั้นอัชเคนาซก็ยังเป็นประมุขจาเฟติคที่สืบเชื้อสายมาจากลูกหลานของโนอาห์ (Table of Nations) ฉะนั้น “อัชเคนาซิม” หรือ “อัชเคนาซิยิว” ก็คือ “ชาวยิวเยอรมัน” สืบค้นที่ https://th.wikipedia.org/wiki/ชาวยิวอัชเคนาซิ
[4] ชาวยิวเซฟาร์ดี (อังกฤษ: Sephardi Jews) เป็นชนกลุ่มย่อยของกลุ่มชนยิวที่มาจากคาบสมุทรไอบีเรีย และ แอฟริกาเหนือ ที่มักจะกล่าวว่าคู่กับชาวยิวอัชเคนาซิ (Ashkenazi Jews) หรือ ชาวยิวมิซราฮิ (Mizrahi Jews) สืบค้นที่ https://th.wikipedia.org/wiki/ชาวยิวเซฟาร์ดี
[5] ดูเพิ่มเติมใน Coronavirus: 5G and microchip conspiracies around the world By Jack Goodman and Flora Carmichael BBC Reality Check 27 June 2020  Available at: https://www.bbc.com/news/53191523

Author Image

About Kim
Kim is a retired civil servant, specializing in intelligence analysis. He loves productivity hacks, minimalist workflows and CSI series.

No comments

Powered by Blogger.