แนวโน้มการก่อการร้ายในอัฟกานิสถานหลังเหตุระเบิดเขย่าคาบูล

Smoke rises from an explosion Thursday outside the Kabul airport. Wali Sabawoon/AP ที่มาภาพ: https://www.npr.org/2021/08/26/1031349674/isis-k-taliban-who-what-you-need-to-know

ารโจมตีแบบฆ่าตัวตายสองระลอกที่ด้านนอกสนามบินนานาชาติคาบูล อัฟกานิสถานเมื่อ 26 สิงหาคม 2021 โดยกลุ่ม IS-K[1] เป็นผู้อ้างความรับผิดชอบทำให้มีผู้บาดเจ็บ 140 คนและเสียชีวิต 60 คน รวมทั้งนาวิกโยธินสหรัฐฯ 11 คน และแพทย์กองทัพเรือสหรัฐฯ 1 คน แม้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ได้แจ้งเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับภัยคุกคามจากกลุ่ม IS-K ที่ “เฉพาะเจาะจง” และ “น่าเชื่อถือ” แต่ยังไม่ชัดเจนว่ามีการเตรียมมาตรการป้องกันอย่างไร ขณะนี้มีความกังวลเพิ่มขึ้นว่า การโจมตีครั้งล่าสุดอาจเป็นการเปิดฉากการก่อการร้ายที่ยาวนานโดยกลุ่ม IS-K ในอัฟกานิสถาน[2]

ระเบิดระลอกแรกกิดขึ้นใกล้ประตู Abbey Gate ทางเข้าหลักของสนามบิน (ซึ่งกองกำลังอเมริกันและอังกฤษประจำการเพื่อดำเนินการอพยพ) และอีกระลอกใกล้โรงแรมบารอน (ถูกใช้เป็นที่จัดเตรียมการอพยพของชาติตะวันตก) โดยมีรายงานการระเบิดเพิ่มเติมบริเวณติดกับคลองระบายน้ำทิ้งใกล้สนามบิน ซึ่งพลเรือนอัฟกันกำลังรอดำเนินการ คาดว่าระเบิดที่ Abbey Gate เป็นการฆ่าตัวตายของผู้ก่อเหตุ คน โดยผู้ผู้ก่อเหตคนหนึ่งจุดชนวนระเบิดในกลุ่มคนก่อนที่ผู้ก่อเหตุคนที่สองเปิดฉากกราดยิง

ทางด้านสหรัฐฯกล่าวว่ายังไม่ทราบจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ขณะที่อังกฤษกล่าวว่ายังไม่มีบันทึกการเสียชีวิตของชาวอังกฤษ ส่วนพลเรือตรีจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหม “ยืนยันว่าเกิดการระเบิดใกล้ประตูแอบบีย์ของสนามบินคาบูล ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตไม่ทราบจำนวน”

          ก่อนหน้านี้เมื่อ 25 สิงหาคม 2021 เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯแจ้งเตือนว่าจะมีการโจมตีเป้าหมายสนามบินโดยกลุ่ม IS-K ส่วนเจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯแจ้งคำเตือนของสถานทูตเกี่ยวกับภัยคุกคามจากกลุ่ม IS ซึ่งอาจโจมตีด้วยยานพาหนะติดตั้งระเบิดแสวงเครื่อง (VBIED)

แม้ยังไม่ชัดเจนว่ามีมาตรการป้องกันเฉพาะหรือไม่เมื่อ 26 สิงหาคม 2021 ออสเตรเลีย อังกฤษและนิวซีแลนด์ได้แจ้งเตือนพลเมืองของตนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสนามบิน หลังจากนั้น โฆษกของกลุ่มตอลิบาน ซาบีฮุลเลาะห์ มูจาฮิด ยืนยันว่าจะไม่มีการโจมตีใด ๆ เกิดขึ้น ทั้งนี้ ในช่วงเช้า 26 สิงหาคม 2021 ตอลิบานได้ฉีดน้ำแรงดันสูงใส่พลเรือนที่รวมตัวกันที่ประตูสนามบินเพื่อสลายฝูงชนและมีการขว้างระเบิดแก๊สน้ำตา

          ระเบิดเขย่ากรุงคาบูลเกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐฯและประเทศอื่น ๆ เร่งอพยพพลเมืองและชาวอัฟกันก่อนถึงกำหนดเส้นตายของประธานาธิบดีไบเดนใน 31 สิงหาคม 2021 โฆษกกระทรวงกลาโหมยืนยันในโพสต์ Twitter เมื่อเช้า 26 สิงหาคม 2021 ว่า “การดำเนินการอพยพในกรุงคาบูลจะไม่สิ้นสุดภายในระยะเวลา 36 ชั่วโมง เราจะอพยพผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้จนกว่าจะสิ้นสุดภารกิจ”

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไบเดนได้แจ้งเตือนภัยคุกคามที่อาจเกิดจากการโจมตีของกลุ่ม IS-K ซึ่งดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่เขาไม่ต้องการขยายกำหนดเวลาการอพยพ ขณะเดียวกัน แคนาดาและหลายประเทศในยุโรปเสร็จสิ้นการอพยพ เมื่อช่วงค่ำ 26 สิงหาคม 2021 ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวถึงผู้รับผิดชอบการโจมตีว่า “จะตามล่าตัวผู้ก่อการร้ายที่อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นและทำให้คนเหล่านั้นต้องชดใช้” โดยให้สัญญาว่าจะโจมตีกลุ่มติดอาวุธ IS-K และดำเนินการอพยพพลเมืองอเมริกันและพันธมิตรชาวอัฟกันจนเสร็จสิ้น

          ที่ผ่านมากลุ่มตอลิบานต่อต้านการขยายตัวของกลุ่มติดอาวุธ IS ในอัฟกานิสถานและยังคงต่อสู้กับกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่เป็นคู่แข่ง ระหว่างการรุกคืบของกลุ่มตอลิบาน นักรบของ IS-K อาจได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพร้อมกับผู้ต้องขังอีกหลายพันคนรวมถึงอดีตนักรบของอัล-ไคดา นอกจากนี้ กลุ่มหัวรุนแรงอาจยึดอาวุธและยุทโธปกรณ์หนักที่ทหารอัฟกานิสถานทิ้งไว้ แม้พลเอก เคนเนธ แฟรงค์ แมคเคนซี ผู้บัญชาการกองบัญชาการภูมิภาคเอเชียกลางและตะวันออกกลาง (CENTCOM) ชี้ว่า ไม่ปรากฏว่า IS-K มีระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบพกพา (MANPAD)  ที่จะก่อให้เกิดภัยคุกคามร้ายแรงต่อเครื่องบิน

นักรบ IS-K เคยมีประวัติโจมตีเป้าหมายที่มีการระวังป้องกันต่ำ (soft target) แบบเดียวกับฝูงชนที่รวมตัวอยู่นอกสนามบินคาบูล ขณะนี้มีความกังวลมากขึ้นว่าการโจมตีครั้งล่าสุดอาจเป็นการเปิดฉากปฏิบัติการก่อการร้ายของกลุ่ม IS-K เพื่อขับไล่กองทหารตะวันตกที่เหลืออยู่ในอัฟกานิสถาน ต่อต้านกลุ่มตอลิบานและพันธมิตรรวมทั้งอัล-ไคดาและเครือข่ายฮักคานี

ความรุนแรงของกลุ่ม IS-K จะสร้างความชอบธรรมตามกฎหมายให้ตอลิบานในฐานะรัฐบาลโดยพฤตินัย (de facto government) ของอัฟกานิสถาน ซึ่งรัฐบาลต่างประเทศที่เป็นพันธมิตรกับพวกเขาจะแบ่งปันรายงานข่าวกรองและขีดความสามารถเพื่อจัดการรับมือการโจมตีของกลุ่ม IS-K ต่อไป

อัฟกานิสถานกำลังหวนกลับคืนสู่สภาพสงครามกลางเมืองเพราะความรุนแรงทุกด้าน ซึ่งเปิดโอกาสให้นักรบต่างชาติและผู้ก่อการร้ายญิฮาดจากทั่วทั้งภูมิภาคและที่อื่น ๆ มาเข้าร่วมกับกลุ่มต่าง ๆ โดยมีความเป็นไปได้ที่อัล-ไคดาหรือกลุ่ม IS-K จะพัฒนาขีดความสามารถในการวางแผนและปฏิบัติการรวมทั้งพยายามโจมตีก่อการรร้ายนอกพรมแดนอัฟกานิสถาน


[1] รัฐอิสลามแห่งจังหวัดโคราซาน (The Islamic State Khorasan Province) หริอชื่อย่อ ISIS-K, ISKP และ ISK เป็นกลุ่มติดอาวุธในอัฟกานิสถานที่เชื่อมโยงและได้รับการยอมรับความภักดีอย่างเป็นทางการจากขบวนการรัฐอิสลามในอิรักและซีเรีย ก่อตั้งขึ้นเมื่อมกราคม 2015 ประกอบด้วยนักรบชาวอัฟกานิสถานและปากีสถานประมาณ 1,500 – 2,000 คน กลุ่มนี้เป็นศัตรูคู่แข่งของตอลีบัน ควบคุมพื้นชนบทในจังหวัดทางภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของอัฟานิสถาน เข้าถึงได้ที่: Pledging Bay`a: A Benefit or Burden to the Islamic State? MARCH 2015 – BAY`A SPECIAL ISSUE, VOLUME 8, ISSUE 3 Authors:DANIEL MILTON, MUHAMMAD AL-`UBAYDI https://www.ctc.usma.edu/pledging-baya-a-benefit-or-burden-to-the-islamic-state/

[2] ISLAMIC STATE KHORASAN (IS-K) ATTACKS DEVASTATE KABUL INTELBRIEF Friday, August 27, 2021 Available at: https://mailchi.mp/thesoufancenter/islamic-state-khorasan-is-k-attacks-devastate-kabul?e=c4a0dc064a

Author Image

About Kim
Kim is a retired civil servant, specializing in intelligence analysis. He loves productivity hacks, minimalist workflows and CSI series.

No comments

Powered by Blogger.