บทเรียนจาก Langley: การบริหารปฏิบัติการไล่ล่าบินลาเดน (ตอนที่ 5) การวางแผนและพิจารณาผลลัพธ์จากทุกความเป็นไปได้
ที่มา:https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/a/ac/Obama_and_Biden_await_updates_on_bin_Laden.jpg/800px-Obama_and_Biden_await_updates_on_bin_Laden.jpg
การดำเนินภารกิจที่ซับซ้อนและความสำเร็จของภารกิจมีความไม่แน่นอนอย่างมากนั้น
ผู้บริหารควรวางแผนโดยพิจารณาจากผลลัพธ์ของทุกความเป็นไปได้และการเบี่ยงเบนจากแผนการที่กำหนด
บ่อยครั้งที่ผู้ใกล้ชิดแผนปฏิบัติการมักได้รับประโยชน์จากมุมมองของผู้อื่นซึ่งประเมินข้อพิจารณาในด้านต่างๆ[1]
สำหรับแผนการจู่โจมบ้านพักใน Abbottabad พลเรือเอก
Bill McRaven ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการร่วมปฏิบัติการพิเศษ
(Joint Special
Operations Command) มอบหมายภารกิจให้ทีมปฏิบัติการใช้เฮลิคอปเตอร์แบบโจมตีปฏิบัติการในคืนเดือนมืด
ซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงการตรวจจับและมีประสิทธิภาพ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
กองกำลังของ McRaven ได้ปฏิบัติภารกิจจู่โจมนับร้อยครั้งในอัฟกานิสถานและอิรัก
แต่แผนการปฏิบัติการครั้งนี้มีความสำคัญและควรพิจารณาจากมุมมองอื่นๆด้วย
เนื่องจากพื้นที่ปฏิบัติการอยู่ในปากีสถานและเป้าหมายมีความสำคัญระดับสูง หากหน่วยปฏิบัติการถูกตรึงเราจะออกจากพื้นที่ได้อย่างไร
?
มุมมองด้าน “การเมือง” ของประธานาธิบดีมีความแตกต่างอย่างมาก
หลังจากรับฟังการบรรยายสรุปแผนปฏิบัติการ ประธานาธิบดีได้แนะนำให้ทีมปฏิบัติการจัดทำแผนสนับสนุนในกรณีที่เฮลิคอปเตอร์ตกและกองกำลังของเราต้องตีฝ่าออกจากพื้นที่
ในอัฟกานิสถานหรืออิรักซึ่งกองกำลังของสหรัฐฯสามารถควบคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด การตีฝ่าออกไปจะไม่มีความเสี่ยงทางการเมือง
แต่ในปากีสถานความกังวลของประธานาธิบดีถูกต้องเพราะการต่อสู้ด้วยอาวุธจะทำให้เกิดความเสี่ยงที่ไม่จำเป็นต่อสมาชิกทีมปฏิบัติการและความสัมพันธ์กับปากีสถาน
ดังนั้นประธานาธิบดีจึงสั่งการให้ McRaven
เพิ่มจำนวนเฮลิคอปเตอร์ในแผน ซึ่งทำให้มีแผนสำรอง (Plan B) หากเฮลิคอปเตอร์ใช้การไม่ได้หรือต้องการกำลังสนับสนุน
McRaven ได้ออกแบบแผนปฏิบัติการใหม่โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ CH-47 Chinook จำนวนหนึ่งบินตามหลังเฮลิคอปเตอร์ Blackhawk ลำแรก การส่งฝูงบินเฮลิคอปเตอร์เข้าไปในปากีสถานทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากการตรวจพบโดยเรดาร์
แต่ประธานาธิบดีเห็นว่าคุ้มค่าที่จะเสี่ยง
ในคืนที่มีการปฏิบัติการจริงเฮลิคอปเตอร์ลำแรกที่มุ่งหน้าไปยังบ้านพักเป้าหมาย
จู่ๆก็บินเอียงตะแคงอย่างช้าๆ สูญเสียแรงยกและหมุนส่าย 180 องศาไปตกลงในคอกสัตว์ หัวใจของเราแทบกระดอนออกจากปากในขณะที่เฝ้าดูใบพัดของ
Blackhawk หมุนช้าลงจนหยุด
นี่ไม่ใช่แผนการที่วางไว้ เมื่อเฮลิคอปเตอร์ลำที่สองเห็นเฮลิคอปเตอร์ลำแรกตก จึงล้มเลิกแผนการหย่อนทีม
SEAL บนหลังคาบ้านพักเป้าหมาย
โดยเปลี่ยนจุดลงจอดเป็นบริเวณนอกบ้านพัก ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
เรามีทีม SEAL จำนวนหนึ่งในคอกสัตว์และส่วนที่เหลืออยู่นอกบ้านพักเป้าหมาย
การดำเนินภารกิจตามแผนฝึกซ้อมปฏิบัติการพิเศษเริ่มขึ้น
โดยเราสอบถาม McRaven ผ่านระบบการสื่อสารที่มีการรักษาความปลอดภัยว่า
“What the hell is going
on?” McRaven ตอบอย่างเยือกเย็นว่าไม่มีใครบาดเจ็บ พวกเขาจะปฏิบัติภารกิจตามแผนและได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ไปสนับสนุนแล้ว
ทีม
SEAL ได้เริ่มปฏิบัติภารกิจตามทางเลือกที่วางแผนไว้ โดยเพิ่งทำลายสิ่งที่จะช่วยแล่นฝ่า “ความเสี่ยง”ออกไป
(ไม่มีทางที่เฮลิคอปเตอร์ที่เหลือหนึ่งลำจะนำทีมทั้งหมดบินกลับไปอัฟกานิสถาน) ทีม SEAL ปฏิบัติการจู่โจมอย่างไร้ข้อตำหนิ สังหารพี่น้องคนนำสาร
บุกขึ้นไปบนส่วนหลักของบ้านพักสังหารบุตรชายคนโตของบินลาเดน (Khalid) สุดท้ายสังหารบินลาเดนในห้องนอนบนชั้นที่ 3 ของบ้านพัก
หลังจากนำร่างบินลาเดนออกจากบ้านพัก
ทีม SEAL ได้รวบรวมคอมพิวเตอร์และ Thumb Drive
ทั้งหมดเท่าที่จะคว้าไปได้และมั่นใจว่าผู้รอดชีวิตทั้งหมด (สตรีและเด็ก) ปลอดภัย
ทีม SEAL วิ่งกรูเข้าไปยังเฮลิคอปเตอร์ สนับสนุน CH-47 Chinook
และบินกลับ พวกเราทุกคนที่เฝ้าชมปฏิบัติการดังกล่าวในศูนย์ปฏิบัติการของ CIA ต่างรู้สึกอึ้งและเงียบกริบ
ปฏิบัติการดังกล่าวไม่ได้เป็นไปตามที่ซักซ้อมไว้ แต่แผนการสนับสนุนกลับใช้การได้ดี
(ยังมีต่อ)
[1] สรุปบทความเรื่อง
The Former Head of the CIA on Managing the Hunt for Bin Laden เขียนโดย Leon E. Panetta
อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลาง (Central Intelligence Agency-CIA) และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สหรัฐฯ ผู้เขียนหนังสือ “Worthy
Fights: A Memoir of Leadership in War and Peace” (Penguin Press, 2014)
และ Jeremy Bash หัวหน้าฝ่ายอำนวยการของผู้อำนวยการ CIA
และรัฐมนตรีกลาโหม ตีพิมพ์ในวารสาร Harvard Business Review
(MAY 02, 2016)
https://hbr.org/2016/05/leadership-lessons-from-the-bin-laden-manhunt
Leave a Comment