บทบาทผู้นำโลกของสหรัฐฯที่หายวับไปกับการระบาดของไวรัสโคโรนา

ที่มาภาพ: The U.S.’s Covid-19 Cases Beat China while Trump Plans to “Open the Country Up” ข่าวหุ้น 27/03/2020 อ่านเรื่องนี้ต่อที่: https://www.kaohoon.com/content/350730

แต่การระบาดของไวรัส COVID-19 เห็นได้ชัดถึงการขาดแคลนภาวะผู้นำของสหรัฐฯและอาจคงอยู่ตลอดไปหลังจากวิกฤติในครั้งนี้

ารแพร่ระบาดทั่วโลกของไวรัสโคโรนา (COVID-19) เผยให้เห็นจุดอ่อนพื้นฐานของประเทศตะวันตกรวมทั้งสหรัฐฯและพันธมิตรในยุโรป ซึ่งพยายามต่อสู้เพื่อยับยั้งการติดเชื้อเพิ่มของผู้ป่วยรายใหม่และตอบสนองการระบาดที่มีอยู่ หลายประเทศที่มักจะมองหาความช่วยเหลือจากสหรัฐฯในช่วงวิกฤต เห็นความล้มเหลวของสหรัฐฯในการจัดการกับไวรัสโคโรนา จึงหันไปหาประเทศอื่นรวมถึงจีน การขาดแคลนชุดทดสอบไวรัสโคโรนาซึ่งจำเป็นสำหรับชาวอเมริกันเปรียบเหมือนการขาดภาวะผู้นำของสหรัฐฯ ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับภัยคุกคามของไวรัสโคโรนาเท่าที่ควร แม้ได้รับฟังการบบรยายสรุปที่เป็นความลับจากประชาคมข่าวกรองตลอดทั้งเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา[1]
ในช่วงแรกของการแพร่ระบาดจีนถูกกล่าวหาว่าปกปิดข้อมูลไวรรัสโคโรนา แต่ปัจจุบันจีนกำลังสร้างภาพตัวเองเป็นผู้กอบกู้สถานการณ์ โดยจัดหาหน้ากากอนามัย ชุดตรวจไวรัสโคโรนา (coronavirus testing kits) ให้แก่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก สื่อมวลชนจีนเน้นให้เห็นการขยายงานเชิงรุกของจีนไปยังยุโรป แอฟริกาและเอเชีย โดยเทียบเคียงความมีเมตตาของจีนกับสหรัฐฯ ขณะเดียวกันสหรัฐฯประสบความยากลำบากจากการขาดแคลนชุดตรวจไวรัส เตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาล สิ่งจำเป็นพื้นฐาน อุปกรณ์ป้องกันสำหรับแพทย์ พยาบาลและบุคลากรทางการสาธารณสุข ขณะที่ผู้ติดเชื้อ COVID-19 พุ่งสูงขึ้นแซงหน้าอิตาลี[2]
ช่วงวิกฤติเชื้อโรคครั้งก่อน ๆ ซึ่งเกิดจากการแพร่การแพร่ระบาดของเชื้อโรค HIV/AIDS และ Ebola ใน     ปี 2014 สหรัฐฯได้เป็นผู้นำการช่วยเหลือตอบสนองระหว่างประเทศ แต่การระบาดของไวรัส COVID-19 เห็นได้ชัดถึงการขาดแคลนภาวะผู้นำของสหรัฐฯและอาจคงอยู่ตลอดไปหลังจากวิกฤติในครั้งนี้
จีนกำลังใช้พลังอำนาจทางการทูตและวัฒนธรรม (soft power) เพื่อสร้างเรื่องเล่าเกี่ยวกับ COVID-19 โดยส่งเวชภัณฑ์ที่จำเป็นจำนวนมาก รวมทั้งนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ไปให้คำแนะนำแก่ประเทศทั่วโลก ข้อบ่งชี้เบื้องต้นดูเหมือนจีนจะประสบความสำเร็จ ประเทศที่โดยปกติแล้วจะมองหาสหรัฐฯในยามวิกฤติ สังเกตุเห็นความล้มเหลวของสหรัฐฯในการจัดการกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
ยุโรปก็เช่นกันได้เปลี่ยนมารับความช่วยเหลือจากจีน ประธานาธิบดีเซอร์เบีย Aleksandar Vucic ประกาศว่า เมื่อถึงที่สุดของการช่วยเหลือในการต่อสู้กับไวรัสโคโรนา “ประเทศเดียวที่สามารถช่วยเราได้คือ จีน” การกล่าวอ้างอย่างอ้อม ๆ ถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวของยุโรปเป็นเทพนิยายที่ไม่เคยมีอยู่จริง และความพยายามในการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนของรัสเซียทำให้ความตึงเครียดรุนแรงขึ้นและการตอบสนองของรัฐบาลทวีความซับซ้อน
ปัจจุบันความเป็นมหาอำนาจโลกของสหรัฐฯเสื่อมคลายลง โดยการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาเป็นเพียงความจริงที่เปลี่ยนยาก (hard truth) การสละความเป็นผู้นำของสหรัฐฯในประเด็นที่มีความกดดันท้ายทายที่สุดในยุคสมัยของเรา ตั้งแต่การต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศไปจนถึงการต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน เป็นการอนุญาตให้ประเทศอำนาจนิยมเช่น จีนครอบงำเรื่องเล่าเกี่ยวกับการตอบสนองไวรัสโคโรนา จีนเพิ่มการเข้าถึงและมีอิทธิพลผ่านการจัดหาความช่วยเหลือระหว่างประเทศ
ก่อนที่รัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์จะประกาศข้อห้ามการเดินทาง ประเทศในยุโรปไม่ได้รับการหารือหรือแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด จีนแสวงประโยชน์จากความแตกแยกของความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก เยอรมนีโกรธมากเมื่อมีการเผยแพร่รายงานกล่าวหาว่า ประธานาธิบดีทรัมป์พยามยามเสนอขอซื้อบริษัทเวชภัณฑ์ CureVac ของเยอรมนี เพื่อให้สหรัฐได้รับสิทธิ์เข้าถึงวัคซีนต้านไวรัส COVID-19 ที่บริษัท CureVac กำลังพัฒนาอยู่[3]
สำหรับผู้สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ การกระทำดังกล่าวเป็นเพียงการปฏิบัติตามนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน (America First)” ส่วนประเทศที่เหลือของโลกแสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯไม่ได้อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงและไม่ได้เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังของผู้คนหลายร้อยล้านคนทั่วโลกมานานหลายทศวรรษแล้ว เช่นเดียวกับการขาดแคนชุดตรวจไวรัสโคโรนาซึ่งจำเป็นสำหรับชาวอเมริกัน ภาวะผู้นำของสหรัฐฯก็เป็นสิ่งที่หาได้ยากเช่นกัน มีรายงานว่าประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงไม่ให้ความสำคัญกับภัยคุกคามของไวรัสโคโรนาอย่างต่อเนื่อง แม้ได้รับฟังการบรรยายสรุปที่มีชั้นความลับจากประชาคมข่าวกรองมาตลอดช่วงมกราคมและกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ภาวะผู้นำของสหรัฐฯไม่เพียงล้มเหลวในระดับระหว่างประเทศเท่านั้น แม้แต่ภายในประเทศ ชาวอเมริกันถูกบังคับให้ช่วยเหลือกันและกัน องค์การภาคประชาสังคมและรัฐบาลของมลรัฐเตรียมชดเชยความผิดพลาดของรัฐบาลกลาง ขณะเดียวกันก็เรียนรู้เกี่ยวกับอันตรายที่เกิดจากไวรัสโคโรนา วุฒิสมาชิกสหรัฐฯหลายคนตระหนักถึงภัยคุกคามที่เกิดจาก COVID-19 แทนที่จะสื่อสารกับชาวอเมริกันเกี่ยวกับภัยคุกคมของไวรัส กลับใช้โอกาสนี้ขายทิ้งหุ้นมูลค่าหลายล้านดอลลาร์สหรัฐในตลาดหลักทรัพย์  สหรัฐฯกำลังกระวนกระวายกับความตกต่ำอย่างมาก หากประเทศสามารถฟื้นตัวจากภัยพิบัติครั้งนี้ คงไม่ได้เกิดจากรัฐบาลทรัมป์ซึ่งแสดงให้เห็นความล้มเหลวของภาวะผู้นำทางศีลธรรมและเปิดเปลือยประเทศให้โลกได้เห็น



[1] CORONAVIRUS PANDEMIC EXPOSES THE DRASTIC ABSENCE OF U.S. GLOBAL LEADERSHIP INTELBRIEF Monday, March 23, 2020 Available at: https://mailchi.mp/thesoufancenter/coronavirus-pandemic-exposes-the-drastic-absence-of-us-global-leadership?e=c4a0dc064a
[2] สหรัฐมีผู้ป่วย COVID-19 สูงสุดในโลก 82,404 ราย กรุงเทพธุรกิจ 27 มีนาคม 2563 รายงานข่าว สืบค้นได้ที่https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/872943
[3] เยอรมนี-สหรัฐแย่งตัวบริษัทยา หวังคว้าสิทธิ์เข้าถึงวัคซีนต้านโควิด-19 สำนักข่าว infoquest 16 มีนาคม 2563 สืบค้นได้ที่ https://www.infoquest.co.th/2020/8168
Author Image

About Kim
Kim is a retired civil servant, specializing in intelligence analysis. He loves productivity hacks, minimalist workflows and CSI series.

No comments

Powered by Blogger.