ความมั่นคงแห่งชาติ: บทเรียนสำคัญจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

ที่มาภาพ: https://edynamiclearning.com/course/high-school-national-security/

ภัยคุกคามความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯในปัจจุบัน นอกจากไม่ได้ลดลง ยังรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากผลกระทบของไวรัสโคโรนาและปัญหาอื่น ๆ ขณะที่ทรัพยากรต่าง ๆ ถูกนำไปตอบสนองการแพร่ระบาด มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) ถือเป็นกลยุทธ์ที่จำเป็นในทางการแพทย์ เพื่อลดอัตราการติดเชื้อเพิ่ม แต่เป็นอุปสรรคในภารกิจด้านความมั่นคง เช่น การพัฒนาแหล่งข่าวกรองบุคคล (HUMINT)[1] การเตรียมความพร้อมทางทหารและการรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน บริษัทหลายแห่งปรับตัวหันมาทำงานออนไลน์ ทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้นจากการโจมตีทางไซเบอร์ หลายเดือนก่อนหน้านี้ ประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯได้แจ้งเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกี่ยวกับภัยคุกคามของการแพร่ระบาด แต่ถูกมองข้าม บทเรียนสำคัญครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่สหรัฐฯต้องเรียนรู้และปรับใช้ตามความเหมาะสมต่อไป[2]
          หลังวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา การดำเนินชีวิตของชาวโลกจะไม่เหมือนเดิมและเป็นไปไม่ได้ที่จะทำความเข้าใจผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญของการเปลี่ยนแปลงทางสังคม การเมือง เศรษฐกิจและนโยบายต่างประเทศ ในขณะนี้ความท้าทายด้านสุขภาพของประชาชนรู้สึกได้จากการติดเชื้อและเสียชีวิตสูงขึ้นแบบเยอะมาก (exponentially) ประเทศในยุโรปรวมทั้งอิตาลีและสเปนมีผู้เสียชีวิตรายวันอย่างต่อเนื่อง ผู้ติดเชื้อในอิตาลีมากกว่า 101,739 คน สเปนติดเชื้อ 87,956 คน ขณะเดียวกันสหรัฐฯมมีผู้ติดเชื้อสูงที่สุดในโลก 164,160 คน มีรายงานว่าอัตราการติดเชื้อไวรัสโคโรนาในนิวยอร์กเมื่อ 31 มีนาคม 2020 เพิ่มขึ้นเป็น 76,000 คน สูงกว่าการติดเชื้อในมณฑลหูเป่ยของจีน ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนามาก่อน[3]
          ความเสียหายอย่างมหาศาลด้านเศรษฐกิจมีผลต่อทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ สุขภาพและเศรษฐกิจก่อให้เกิดความเครียดและความท้าทายสำคัญของการระบาด ซึ่งฝากความหวังไว้กับทบวง กรมและเจ้าหน้าที่ซึ่งให้คำสัตย์ปฏิญาณว่าจะปกป้องความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ซึ่งนอกจากไม่ได้ลดลง ยังเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง แค่ในสัปดาห์นี้ หน่วยสืบสวนคดีอาญา กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (FBI) ได้ทำลายแผนการวางระเบิดโรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาของกลุ่ม neo-Nazi ในมลรัฐ Missouri โดยผู้ต้องสงสัยก่อเหตุเสียชีวิตระหว่างเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย
          หน่วยงานข่าวกรองของรัฐบาลกลาง กองทัพและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทุกระดับของสหรัฐฯต่างได้รับผลกระทบร้ายแรงจากการแพร่ระบาดของไวรัสเท่ากับประชาชนทั่วไปหรือบางทีอาจจะมากกว่า เนื่องจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานดังกล่าวต้องเดินทางไปพบปะผู้คนซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) เป็นกลยุทธ์ที่จำเป็นทางการแพทย์ เพื่อชะลออัตราการติดเชื้อเพิ่ม ขณะเดียวกันเป็นอุปสรรคต่อภารกิจด้านความมั่นคง เช่น การพัฒนาแหล่งข่าวกรองบุคคล การเตรียมกำลังให้พร้อมรบและการรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน (สายด่วน 911) รวมทั้งการติดตามผลการปฏิบัติงานสืบสวนประจำวันของหน่วยข่าวกรองรวมทั้งทหารและตำรวจ
       ภารกิจด้านการสืบสวนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การต่อต้านการก่อการร้ายหรือการจารกรรม (espionage) ของต่างชาติซึ่งจะต้องพึ่งพาข่าวกรองทางสัญญาณ (SIGINT) และข่าวกรองบุคคล ในขณะนี้รูปบแบบการเคลื่อนที่ของแหล่งข่าวหรือเป้าหมายถูกจำกัด คนที่สามารถเข้าถึงพื้นที่สนใจของพนักงานสืบสวนและเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอาจไม่สามารถเดินทางและพบปะเป้าหมายหรือแหล่งข้อมูล ทำให้เกิดจุดบอดในการดำเนินงานสืบสวนต่อต้านการก่อการร้ายและการบังคับใช้กฎหมาย
         อาชญากรรมข้ามชาติและกลุ่มก่อการร้ายไม่มีภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัส กิจกรรมความเคลื่อนไหวของพวกเขาน่าจะได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่การขาดความชัดเจนหรือข้อมูลเชิงลึกในปัจจุบัน เนื่องจากความพยายามรวบรวมข่าวสารลดลง อาชญากรและผู้ก่อการร้ายมีแนวโน้มที่จะแสวงประโยชน์จากการระบาดของไวรัสและใช้ความได้เปรียบจากความจริงที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและหน่วยข่าวกรองมีทรัพยากรจำกัดและหันไปให้ความสนใจความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาด พวกเขาจีงอาจก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นหรือโจมตีแบบเรียกค่าไถ่จากบริษัทต่าง ๆ ที่เคลื่อนย้ายไปดำเนินธุรกิจทางออนไลน์
          ประชากรส่วนที่เหลือของสหรัฐฯจะประสบความเสียหาย (human cost) จากการแพร่ระบาดครั้งนี้และถ่ายเทไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง บุคลากรทางทหารและเจ้าหน้าที่บังคับใช้ากฎหมาย รวมถึงครอบครัวและเครือข่ายสนับสนุน หน่วยงานเหล่านี้หลายแห่งโดยเฉพาะในระดับท้องถิ่นจะถูกเรียกใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างท่วมท้น ในเวลาหนึ่งและจะหมดลงจากการเจ็บป่วยและการกักกัน แม้ในสำนักงานที่มีความยืดหยุ่นและได้รับการสนับสนุนมากที่สุดก็จะมีการหยุดชะงักอย่างรุนแรงในการทำงานโดยไม่คำนึงถึงปัญหาด้านความมั่นคงของประเทศ
             ภัยคุกคามความมั่นคงแห่งชาติที่เผชิญหน้าสหรัฐฯก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสจะยังคงท้าทายต่อไป แม้การตอบสนองของสหรัฐฯถูกจำกัด  ในขณะที่ประเทศกำลังต่อสู้กับปัญหาการแพร่ระบาด สหรัฐฯยังต้องพึ่งพาพันธมิตรประสานงานติดต่อต่างประเทศ ในการต่อต้านการก่อการร้ายและลำดับความสำคัญเร่งด่วนของการบังคับใช้กฎหมาย ก่อนหน้านี้ประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯแจ้งเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงการแพร่ระบาด แต่ถูกมองข้ามโดยรัฐบาลทรัมป์ บทเรียนสำคัญครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่สหรัฐฯต้องเรียนรู้และปรับใช้ตามความเหมาะสมต่อไป




[1] Human Intelligence หมายถึง ข่าวกรองที่ได้จากการพบปะระหว่างบุคคล ตรงข้ามกับข่าวกรองที่ได้จากการรวบรวมโดยใช้เครื่องมือทางเทคนิค ดูรายละเอียดได้ที่ https://en.wikipedia.org/wiki/Human_intelligence_(intelligence_gathering)
[2] THE NATIONAL SECURITY IMPLICATIONS OF THE CORONAVIRUS PANDEMIC INTELBRIEF Friday, March 27, 2020 Available at: https://mailchi.mp/thesoufancenter/the-national-security-implications-of-the-coronavirus-pandemic?e=c4a0dc064a
[3] New York Coronavirus Cases Surge Past China’s Hubei Province Rachel Chang Bloomberg March 31, 2020 Available at: https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-03-31/new-york-coronavirus-cases-surge-past-china-s-hubei-province?cmpid=BBD040120_MKT&utm_medium=email&utm_source=newsletter&utm_term=200401&utm_campaign=marketsasia
Author Image

About Kim
Kim is a retired civil servant, specializing in intelligence analysis. He loves productivity hacks, minimalist workflows and CSI series.

No comments

Powered by Blogger.