ภูมิทัศน์ภัยคุกคามจากการก่อการร้ายระดับโลกในปี 2019
ดาวน์โหลดเอกสารที่ https://www.state.gov/country-reports-on-terrorism-2/
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเผยแพร่รายงานการก่อการร้ายรายประเทศประจำปี 2019 (Country Reports on Terrorism 2019)[1] สรุปภาพรวมภูมิทัศน์ของภัยคุกคามทั่วโลกโดยเน้นความคืบหน้าในการต่อต้านการก่อการร้ายในพื้นที่ต่าง ๆ และยอมรับว่ายังมีความท้าทายสำคัญรออยู่ข้างหน้า ทั้งนี้ กลุ่ม Salafi-jihadist[2] รวมถึงรัฐอิสลาม (Islamic State -IS) และ al-Qaida ยังคงเป็นปฏิปักษ์ที่ยืดหยุ่นและเป็นภัยคุกคามความมั่นคงโลกผ่านกลุ่มพันธมิตรและขยายพื้นที่ปฏิบัติการใหม่อย่างต่อเนื่อง แม้รายงานจะบ่งชี้ว่า สหรัฐฯกดดันอิหร่าน “ขั้นสูงสุด” โดยประกาศให้กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (Islamic Revolutionary Guard Corps - IRGC) อิหร่านเป็นองค์กรก่อการร้ายต่างชาติ แต่ผลที่ได้มีความหลากหลายรวมกัน หากมองในแง่ดีที่สุด[3]
เมื่อ 24 มิถุนายน 2020 กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเผยแพร่รายงานประจำปีเกี่ยวกับการก่อการร้ายรายประเทศโดยสรุปภาพรวมภูมิทัศน์ภัยคุกคามทั่วโลก สาระสำคัญส่วนใหญ่เป็นที่รู้จักคุ้นเคยรวมทั้งภัยคุกคามจากกลุ่มก่อการร้ายที่ยังคงอยู่และบทบาทของอิหร่านในการสนับสนุน (ตัวแทน) กลุ่มก่อการร้าย เช่น กลุ่ม Hezballah ปลุกปั่นการก่อการร้ายและความรุนแรงสุดโต่งทั่วโลก (จากตะวันออกกลางถึงละตินอเมริกา) และยอมรับว่าเครือข่ายกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติที่มีเหตุจูงใจด้านเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ก่อการร้ายคนขาวผู้สูงส่ง (white supremacist terrorists) เป็นภัยคุกคามความมั่นคง
ในเบื้องต้นรายงานมุ่งเน้นเหตุการณ์ในปี 2019 ซึ่งสหรัฐฯและพันธมิตรสามารถเอาชนะและกำจัดที่มั่นสุดท้ายของ IS ใน Baghouz ซีเรีย ในมีนาคม 2019 และสังหาร Abu Bakr al-Baghdadi ผู้นำ IS ในปลายตุลาคม 2019 อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างสหรัฐฯยอมรับว่า IS เป็นปฏิปักษ์ที่มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถปรับตัวได้ แม้ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า รัฐอิสลามในอิรักและซีเรีย แต่ก็เป็นภัยคุกคามความมั่นคงโลกผ่านการเข้าร่วมกลุ่มก่อการร้ายในเครือและขยายตัวไปยังพื้นที่อื่น ๆ เช่น ด้านใต้ของทะเลทรายซาฮารา แอฟริกา เอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ขณะเดียวกัน al-Qaida สูญเสีย Hamza bin Laden ในกันยายน 2019 เนื่องจากเครือข่ายก่อการร้ายระดับโลกของ al-Qaida ถูกก่อกวน (disrupt) ทำให้ได้ข่าวกรองเกี่ยวกับผู้นำระดับสูง รวมทั้งการสังหาร Qassim al-Rimi ผู้นำ al-Qaeda ในคาบสมุทรอาระเบีย (AQAP) ในกุมภาพันธ์ 2020 และ Abdelmalek Droukdel ผู้นำ al-Qaeda ในมาเกร็บอิสลาม (AQIM) เมื่อต้นมิถุนายน 2020 แต่ al-Qaida ยังรักษาความสามารถในการจูงใจให้สมาชิกโจมตีเป้าหมาย โดยมีหลักฐานจากการโจมตีฐานทัพอากาศกองทัพเรือสหรัฐฯในฟลอริดาเมื่อธันวาคม 2019 โดยเรืออากาศเอกชาวซาอุดีอาระเบีย ซึ่งปฏิบัติการร่วมกับ AQAP
จุดมุ่งเน้นของรายงานประจำปี 2019 ให้ความสำคัญกับบทบาทของอิหร่านในการอุปถัมภ์การก่อการร้ายและการโจมตีทั่วโลกผ่านกองกำลัง IRGC รวมทั้งกองกำลัง Qods และกระทรวงข่าวกรองและความมั่นคง (Ministry of Intelligence and Security) อิหร่านเกี่ยวข้องกับการวางแผนก่อการร้ายเกือบทั่วโลกและยังคงปลูกฝังเครือข่ายกองกำลังตัวแทนในซีเรีย อิรัก เลบานอน บาห์เรนและเยเมน โดยให้เงินทุน การฝึกอบรมและเครื่องมือเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ด้านความมั่นคงในภูมิภาค แม้สหรัฐฯประกาศให้ IRGC เป็นองค์การก่อการร้ายต่างชาติ (Foreign Terrorist Organization - FTO) เพื่อกดดันอิหร่านขั้นสูงสุด ในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 อิหร่านยังคงกล้าท้าทายสหรัฐฯ รายงานโจมตีด้วยว่า อิหร่านให้ที่พักพิงแก่ผู้ปฏิบัตการของ al-Qaida
การเปลี่ยนแปลงที่น่ายินดีของรายงานดังกล่าว คือ การมุ่งเน้นภัยคุกคามจากผู้ก่อการร้ายที่มีแรงจูงใจด้าน เชื้อชาติหรือชาติพันธุ์ (racially or ethnically motivated terrorists - REMT) โดยเฉพาะผู้ก่อการร้ายคนขาวผู้สูงส่ง (white supremacist terrorists) ในปี 2019 มีการโจมตีของผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้รวมถึงการโจมตีที่เมือง Christchurch นิวซีแลนด์ เมือง Halle เยอรมนี และ El Paso มลรัฐเท็กซัส รายงานตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการเคลื่อนไหววางแผนโจมตีของพวก REMT ในหลายประเทศในยุโรปรวมทั้งบทบาทในการโฆษณาชาวนเชื่อผ่านสื่อสังคม (social media) และอินเตอร์เน็ต
การให้ความสนใจกลุ่มคนขาวผู้สูงส่ง สะท้อนให้เห็นการเปลี่ยนแปลงความเชื่อที่ส่งผลต่อพฤติกรรม (mindset) ของเจ้าหน้าที่ต่อต้านการก่อการร้ายของรัฐบาลสหรัฐฯ แต่รายงานไม่ได้อธิบายลักษณะการคุกคามข้ามชาติเชิงลึกของกลุ่มดังกล่าว ซึ่งมีจุดเชื่อมต่ออันหลากหลายประกอบด้วยเครือข่ายพวกหัวรุนแรงสุดโต่ง ภัยคุกคามจากผู้ก่อการร้ายมิได้มีลักษณะหยุดนิ่ง ดังนั้น เพื่อให้มั่นใจว่าสหรัฐฯสามารถปกป้องพลเมืองของตนทั้งภายในและนอกประเทศ สหรัฐฯควรมีบทบาทสำคัญในการสร้างหุ้นส่วนและพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งขีดความสามารถในการตรวจจับ ก่อกวนและรื้อถอนเครือข่ายก่อการร้ายระดับโลก
[1] Country Reports on Terrorism 2019 BUREAU OF COUNTERTERRORISM Available at: https://www.state.gov/wp-content/uploads/2020/06/Country-Reports-on-Terrorism-2019-2.pdf
[2] Salafi jihadism หรือ jihadist-Salafism กลุ่มอุดมการณ์ศาสนา-การเมืองข้ามชาติ ( transnational religious-political) ที่มีความเชื่อเรื่องการต่อสู้ทางกายภาพและ Salafi movement (ขบวนการการปฎิรูปอิสลามสาขาหนึ่งของนิกายสุหนี่ พัฒนาขึ้นในอิยิปต์ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เพื่อต่อต้านจักรวรรดินิยมตะวันตก) ซึ่งยึดมั่นกับการกลับสู่พื้นฐานอิสลามสายสุหนี่ที่แท้จริง Available at: https://en.wikipedia.org/wiki/Salafi_jihadism
[3] U.S. STATE DEPARTMENT COUNTRY REPORTS ON TERRORISM 2019 ASSESSES GLOBAL NATURE OF THE THREAT INTELBRIEF Thursday, June 25, 2020 Available at: https://mailchi.mp/thesoufancenter/us-state-department-country-reports-on-terrorism-2019-assesses-global-nature-of-the-threat?e=c4a0dc064a
Leave a Comment