หากประชาคมระหว่างประเทศไม่เอาเรื่องรัฐอันธพาล (rogue states) จะลอยนวลพ้นผิด
เบลารุสอาจถูกคว่ำบาตรเพิ่มเติม
หลังจากรัฐบาลใช้เครื่องบินขับไล่ MiG-29 บังคับเปลี่ยนเส้นทางเที่ยวบิน
FR4978 ของสายการบิน Ryanair จากกรุงเอเธนส์
กรีซไปยังกรุงวิลนีอุส ลิทัวเนีย ให้ลงจอดที่กรุงมินสก์ เบลารุส เพื่อควบคุมตัว Roman
Protasevich นักข่าวฝ่ายต่อต้านรัฐบาลและแฟนสาว โดยมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของเบลารุส
2 คนซึ่งเดินทางมากับเที่ยวบินดังกล่าวแกล้งขู่ว่ามีการวางระเบิดบนเครื่องบิน
ทั้งนี้ ประเทศตะวันตกรวมทั้งสหภาพยุโรปจะต้องตอบโต้การกระทำดังกล่าวอย่างจริงจัง เพื่อปกป้องกฎหมายระหว่างประเทศและยับยั้งพฤติกรรมที่คล้ายคลึงกันของรัฐอันธพาล
(rogue ststes) ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต[1]
การละเมิดกฎหมายการเดินทางระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้งครั้งล่าสุดเมื่อ 23
พฤษภาคม 2021 โดยรัฐบาลเบลารุสบังคับเปลี่ยนเส้นทางสายการบินพลเรือนระหว่างประเทศ
เพื่อจับกุม Roman Protasevich นักข่าวฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลและแฟนสาว
Sofia Sapega ถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยการบินพลเรือนและอากาศยาน
โดยสะท้อนให้เห็นความผุกร่อนอย่างต่อเนื่องของกฎหมายระหว่างประเทศ
สาเหตุที่
Protasevich ถูกรัฐบาลเบลารุสคุกคาม เพราะการรายงานข่าวการทุจริตการเลือกตั้งประธานิบดีเมื่อปี
2020 ส่วน Sapega ซึ่งร่วมเดินทางยังไม่ได้ถูกตั้งข้อหาแต่อย่างใด
เที่ยวบิน FR4978 ของสายการบิน Ryanair ออกเดินทางจากกรุงเอเธนส์มุ่งหน้าไปยังกรุงวิลนีอุส ขณะกำลังบินออกจากน่านฟ้าเบลารุส
Aleksandr Lukashenko ผู้นำเผด็จการของเบลารุสส่งเครื่องบินขับไล่
MiG-29 เพื่อบังคับให้ลงจอดฉุกเฉินที่กรุงมินสก์ เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ข่าวกรองชาวเบลารุสสองคนอยู่บนเครื่องบินและแจ้งลูกเรือว่ามีระเบิดอยู่บนเครื่องบิน
หลายชั่วโมงระหว่างนั้นมีการตรวจค้นผู้โดยสารและกระเป๋าเดินทางทั้งหมด Protasevich
เชื่อมั่นว่าตนจะได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเดินทางระหว่างสนามบินของสหภาพยุโรป
Protasevich แจ้งผู้โดยสารหลายคนว่า ชีวิตของตนอาจตกอยู่ตกอยู่ในอันตราย
การเผยแพร่วิดีโอคำสารภาพของเขาเมื่อเช้า 26 พฤษภาคม 2021
เป็นเครื่องยืนยันว่าเขาถูกบังคับให้พูดภายใต้การควบคุมของทางการเบลารุส[2]
การจี้บังคับเครื่องบินอย่างโจ่งแจ้งและการควบคุมตัว
Protasevich และ Sapega แสดงให้เห็นว่า
Lukashenko ผู้นำเผด็จการและผู้สนับสนุนเช่น ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์
ปูตินของรัสเซีย กระทำการแบบลอยนวลพ้นผิด (impunity) โดยไม่เกรงกลัวผลของการกระทำเยี่ยงอันธพาลและผิดกฎหมายในประเทศยุโรป
การสร้างเงื่อนไขเท็จบังคับสายการบินให้ลงจอดเพื่อควบคุมนักข่าวและผู้เห็นต่างทางการเมือง
ถือเป็นการ “จี้บังคับอากาศยาน (hijacking)” แต่การตอบสนองของสหภาพยุโรปเป็นไปอย่างเฉยชา
มีเพียงเบลเยียม สหรัฐฯและอังกฤษที่พยายามยับยั้งพฤติกรรมผิดกฎหมาย อังกฤษมีบทบาทนำในการห้ามบินเหนือน่านฟ้าเบลารุส
ซึ่งอยู่ภายใต้การคว่ำบาตร โดยเป็นผลสืบเนื่องจากการกระทำของ Lukashenko ในการเลือกตั้งเมื่อสิงหาคมปี 2020
ปัจจุบันเที่ยวบินพาณิชย์จำนวนมากหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านน่านฟ้าเบลารุส
สหภาพยุโรปห้าม Belavia สายการบินแห่งชาติเบลารุสเข้าถึงสนามบินของสหภาพยุโรป
ทั้งหมดนี้คือความจำเป็นแต่ยังไม่พอ หลายฝ่ายกังวลว่าการโดดเดี่ยวเบลารุสจะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเบลารุสกับรัสเซียแน่นแฟ้นมากขึ้น
ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและผู้เห็นต่างซึ่งจะไม่สามารถบินออกนอกประเทศ
ส่วนการเดินทางข้ามแดนทางบกก็มีข้อจำกัดจากมาตรการป้องกันโควิด-19
Lukashenko
ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องการจี้บังคับเครื่องบิน Ryanair ลงจอด แม้การสร้างเรื่องของเจ้าหน้าที่เบลารุสว่า “กลุ่มติดอาวุธฮามาสของปาเลสไตน์วางระเบิดบนเครื่องบิน”
จะถูกเยาะเย้ยอย่างกว้างขวาง แต่การกระทำโดยเจตนาและไร้ยางอายก็เป็นประเด็น – จุดมุ่งหมายคือ
ส่งข้อความที่ชัดเจนถึงใครก็ตามที่กล้าท้าทายการปกครองแบบเผด็จการและเรียกร้องความจงรักภักดีอย่างสมบูรณ์ต่อรัฐ
ระหว่างการเดินทาง Protasevich ส่งข้อความถึงผู้ที่ไว้ใจได้ว่า
เขาถูกติดตามจากสนามบินเอเธนส์หลังจากบุคคลที่พูดภาษารัสเซียขอดูเอกสารการเดินทาง ผู้สื่อข่าวอาจเป็นกลุ่มบุคคลที่
Lukashenko ต้องการตัวมากที่สุด เพราะคนเหล่านี้ถ่ายทอดเรื่องราวการประท้วงในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงปี
2020 ผ่านแพลตฟอร์มข่าว Nexta ของแอพ
Telegram การจับกุมฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองทำให้ Lukashenko “ชนะ” การเลือกตั้งทุจริตอย่างโจ่งแจ้ง ส่วน Protasevich ใช้สื่อสังคมฝ่าข้อจำกัดโดยใช้อินเทอร์เน็ตเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารไปยังผู้คนนับล้าน
นักข่าวและผู้เห็นต่างทางการเมืองทั่วโลกตกเป็นเป้าหมายของอำนาจรัฐเผด็จการ
กรณีฆาตกรรม Jamal Khashoggi นักข่าวชาวซาอุดีอาระเบียเป็นตัวอย่างเด่นชัดที่สุด
แนวโน้มการข่มขู่ ล่วงละเมิด สังหารนักข่าวและฝ่ายตรงข้าม (ผู้เห็นต่าง) ทางการเมืองคงจะดำเนินต่อไป
เมื่อผู้นำเผด็จการขยายอำนาจออกนอกเขตแดน เพื่อปิดปากผู้เห็นต่าง
องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ
(ICAO) หน่วยงานพิเศษของสหประชาชาติ เรียกประชุม ฉุกเฉินเมื่อ
23 พฤษภาคม 2021 โดยผู้แทนสมาชิก 36 ประเทศรวมทั้งฝรั่งเศสและอังกฤษระบุว่า กรณีดังกล่าวเป็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของผู้โดยสารและลูกเรือ
ขณะที่รัสเซีย (ซึ่งมีจีนและแอฟริกาใต้ร่วมสนับสนุน) เห็นว่าควรพิจารณาตามภาคผนวก
17 ของอนุสัญญาชิคาโกว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (Chicago
Convention on International Civil Aviation 1944)
การตอบสนองของประชาคมระหว่างประเทศโดยรวมมีความสำคัญต่อการยับยั้งพฤติกรรมที่คล้ายคลึงกันของเบลารุสหรือรัฐอันธพาลอื่น ๆ ในอนาคต
[1] A TEPID
INTERNATIONAL RESPONSE TO AIR PIRACY WILL EMBOLDEN ROGUE STATES INTELBRIEF
Wednesday, May 26, 2021 Available at:
https://mailchi.mp/thesoufancenter/a-tepid-international-response-to-air-piracy-will-embolden-rogue-states?e=c4a0dc064a
[2] Roman Protasevich: Belarus journalist's confession
was forced - family says BBC Available at: https://www.bbc.com/news/world-europe-57353413
Leave a Comment